Flying Purple Butterfly

วันศุกร์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2557

4.ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพัฒนาการทางภาษา

พัฒนาการทางภาษาของเด็กปฐมวัย


ทฤษฎีและพัฒนาการทางภาษาของเด็กปฐมวัย




ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพัฒนาการทางภาษา

                   ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพัฒนาการหรือความก้าวหน้าทางภาษาของเด็กมีดังนี้
(กรรณิการ์  พวงเกษม,  2534 : 20 – 21)

1.      วุฒิภาวะ เมื่อเด็กมีความเจริญขึ้นตามลำดับ ความสามารถในการพูด การเขียนย่อมตามมา นับตั้งแต่อายุ 15 เดือน ขึ้นไปแล้วเด็กจะใช้ภาษาพูดมากขึ้นตามลำดับจนกระทั่งอายุ 36 เดือน จะสามารถใช้คำพูด 376 คำต่อวัน และเมื่ออายุ 48 เดือน จะพูดได้ 397 คำต่อวัน และสามารถใช้คำวิเศษณ์ และคำคุณศัพท์เพิ่มมากขึ้นตามลำดับ และนอกจากนั้นถ้าหากมีสมาธิดี ก็จะจดจำสิ่งที่ได้ยินได้ฟังมาเล่าต่อให้คนอื่นทราบ

2.      สิ่งแวดล้อม ถ้าหากพ่อแม่ ผู้ปกครองสนใจ เอาใจใส่ พยายามพร่ำสอนให้เด็กพูดคุย และหัดอ่านหัดเขียนอยู่ตลอด เด็กจะมีความพร้อมทางภาษามาก โดยเฉพาะครอบครัวที่มีการศึกษาสูง ย่อมมีส่วนสร้างความเจริญทางภาษาให้เด็กได้ดีกว่าครอบครัวที่มีฐานะยากจน ซึ่งส่วนมากไม่ค่อยสนใจในเรื่องภาษาของบุตรหลานของตนเท่าที่ควร

3.      การเข้าใจความหมายภาษาที่ใช้พูด ถ้าอยู่ในวงแคบศัพท์ก็พื้น ๆ ธรรมดาแต่ถ้าหากอยู่ในชุมชนที่กว้างใหญ่ เด็กก็สามารถเข้าใจคำ ประโยค วลีที่มีความหมายต่าง ๆ ได้ดี ฉะนั้น การพูดอะไรก็ตามที่เด็กเพียงแต่เลียนคำพูด เลียนเสียงพูด ผู้ใหญ่จึงควรได้ย้อนถามเขาดูบ้างว่าที่พูด ๆ นั้นเข้าใจเพียงใด เปรียบเสมือนคนไทยที่พูดคำต่างประเทศตามเขาแต่ออกเสียงผิด ความหมายก็ย่อมจะเปลี่ยนไปได้ ดังนั้น เพื่อป้องกันความผิดพลาดดังกล่าวจึงควรได้ย้อนถามความหมายในสิ่งที่เด็กพูดได้แต่ไม่เข้าใจความหมายด้วย

4.      การให้มีพัฒนาการทั้งหมด (Develope as a Whole) เราจะต้องให้เด็กมีรูปร่างที่ดี หน้าตาสดใส สะอาดกายใจ สมองก็ต้องให้ดี สุขภาพสมบูรณ์ และสังคมก็ต้องดี จึงจะทำให้เด็กมีความเจริญทางภาษาได้ดี ไม่ควรแต่เพียงว่าให้อ่านได้เขียนได้เท่านั้น เราต้องคำนึงถึงหลักของความต้องการความสนใจจากเพื่อน ๆ ของเด็กด้วย ถ้าหน้าตาสกปรกเพื่อน ๆ ก็ย่อมไม่พูดคุยด้วยโอกาสที่จะมีความเจริญทางภาษาพูดก็ยิ่งเสียเปรียบคนที่รูปร่าง หน้าตา สะอาดสดใส

5.      ขั้นตอนและการจัดชั้นเรียน การจัดโรงเรียนแบบไม่มีชั้น แต่อาศัยความสามารถทางภาษาเป็นแนวก็น่าจะได้ลองจัดให้เป็นที่แพร่หลายต่อไป หลักสูตรและขั้นตอนการสอนบางบทก็น่าจะสับเปลี่ยนไปได้ตามระดับความสามารถและความพร้อมของนักเรียน จึงมีข้อที่น่าสังเกตว่าบางแห่งสอนบทเรียนยากก่อน แล้วกลับมาสอนบทธรรมดาภายหลังโดยอ้างแต่หลักสูตร ซึ่งตามความเป็นจริงแล้ว ครูผู้สอนน่าจะมีความสามารถในการวินิจฉัยบทเรียนนั้น ๆ ได้ด้วยตนเอง

6.      การมีส่วนร่วม (Participation) กิจกรรมใด ๆ ก็ตามเด็ก ๆ ควรมีส่วนร่วมทุกครั้ง ทุกคน ครูไม่ควรเลือกที่รักมักที่ชังจะต้องพิจารณาความสามารถของเด็กเป็นรายบุคคลและกำหนดงานให้ทำร่วมกับเพื่อน ๆ ตามใจสมัคร หรือครูกำหนดกลุ่มให้บางครั้ง การทำงานเป็นกลุ่ม การทำงานเป็นกลุ่มย่อย การร่วมกิจกรรมต่าง ๆ มีส่วนช่วยให้เด็กมีความเจริญทางภาษาได้อย่างมาก

                   นอกจากนี้ สุภาวดี  ศรีวรรธนะ  (2542 : 49 – 50) ยังได้กล่าวถึง ปัจจัยที่มีอิทธิพล
ต่อพัฒนาการทางภาษาของเด็กว่าควรประกอบด้วยสิ่งสำคัญ 2 ประการคือ

1.      สถานภาพทางเศรษฐกิจและสังคม การศึกษาและถิ่นที่อยู่ของบิดา มารดา อันเนื่องมาจากการแบ่งชนชั้นไม่เท่าเทียมกันในสังคม เป็นองค์ประกอบอย่างหนึ่งที่มีอิทธิพลต่อพัฒนาการทางภาษาของเด็ก แม็คคาธี (MC. Carthy 1957 : 603 ; อ้างถึงใน Carmichale.1960 ; 586 – 587) ได้ค้นคว้าเกี่ยวกับพัฒนาการทางภาษาพูดของเด็ก พบว่าความแตกต่างทางด้านฐานะทางเศรษฐกิจและอาชีพมีผลต่อพัฒนาการทางภาษาพูดของเด็ก เด็กที่อยู่ในฐานะเศรษฐกิจและสังคมสูง จะใช้ภาษาได้ดีกว่าตั้งแต่อายุยังน้อย และเด็กที่อยู่ในฐานะทางเศรษฐกิจและสังคมต่ำ มักจะใช้คำถามอย่างเดียวติดต่อกันไป ซึ่งแสดงว่ายังมีวุฒิภาวะทางด้านภาษาไม่ดีพอ ส่วนทางด้านการศึกษาของบิดา มารดานั้น พิชเชอร์ (Fisher 1958 : 483 ; อ้างถึงใน Carmichale.  1960 : 587) ได้ศึกษาวิจัยและพบว่า เด็กที่มาจากครอบครัวซึ่งบิดามารดาเป็นผู้ชำนาญการได้รับการศึกษามาอย่างดี จะมีพัฒนาการทางภาษาดีที่สุด และถิ่นที่อยู่สามารถเป็นองค์ประกอบที่มีอิทธิพลต่อพัฒนาการทางภาษาได้นั้น จากการศึกษาของ คิทเทล (Kittle  1967 : 342 ; อ้างถึงใน  สวนา  พรพัฒน์กุล.  2513 : 9) ได้ศึกษาวิจัยพบว่า พัฒนาการทางภาษาของเด็กในเขตเมืองกับเขตชนบทมีความแตกต่างกันโดยเขตเมืองจะดีกว่า

2.      ขนาดครอบครัว เพศ และอายุ เป็นส่วนที่มีอิทธิพลต่อพัฒนาการทางภาษาอีกประการหนึ่งโดย จอห์นสัน (Johnson.  1974 : 265) ได้ศึกษาเปรียบเทียบขนาดของครอบครัวว่ามีส่วนสัมพันธ์กับพัฒนาการทางภาษาหรือไม่ พบว่า ครอบครัวที่มีการอบรมเลี้ยงดูเป็นอย่างดีไม่มีพี่น้องมาก จะมีพัฒนาการทางภาษาได้เร็ว และดีกว่าครอบครัวที่มีพี่น้องมาก ถ้ามีพี่น้องมากคนโต และคนสุดท้ายมักมีพัฒนาทางภาษาที่ดีกว่าลูกคนกลาง ส่วนเพศและอายุ พบว่า เด็กหญิงมีความสามารถทางภาษาดีกว่าเด็กชาย ส่วนอายุนั้น จะพบว่าเด็กตั้งแต่ 3 ปี ขึ้นไปจะมีพัฒนาการทางภาษาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว พอถึงวัยเข้าโรงเรียนแล้วจึงลดลงตามลำดับ

                   จากที่กล่าวข้างต้น สรุปได้ว่า ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพัฒนาการทางภาษาของเด็กปฐมวัย ควรประกอบด้วยวุฒิภาวะหรือความพร้อมของพัฒนาการทุกด้าน เพศ อายุ ขนาดของครอบครัว สถานภาพทางเศรษฐกิจและสังคม สิ่งแวดล้อมรอบตัวทั้งบุคคลและสถานที่ ตลอดจนบุคลิกภาพ



แหล่องอ้างอิง http://www.oknation.net/blog/print.php?id=845068

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น